วันนี้ (28 พฤศจิกาย 2567 ) ที่ โถงแสงจันทร์ ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดจันทบุรี นายสันติ รังษิรุจิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เป็นประธานในพิธีมอบเงินสงเคราะห์ให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากกรณี อุทกภัย และสิ่งของพระราชทาน และมอบเงินสงเคราะห์ จำนวน 2 ครอบครัว
นางสาวรัตน์ติกรณ์ ศรีสุรนันท์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดจันทบุรี และประชาชนที่นำหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนเข้าร่วมพิธี โดยมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์มอบสิ่งของพระราชเงินสงเคราะห์ให้แก่ครอบครัวของผู้ประสบสาธารณภัยพิบัติ จำนวน 2 ครอบครัว มีรายละเอียดดังนี้
รายที่ 1 เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 เกิดเหตุวาตภัยและคลื่นลมแรงในพื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลบางชัน อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ปรากฏว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือนางสาวชนิตา บูรณกิจ อายุ 32 ปี โดยนางสาวชนิตาฯ อาศัยอยู่กับสามีชื่อ นายอนงค์ศักดิ์ ศิลารัตน์ อายุ 43 ปี และบุตรชาย 3 คน ชื่อเด็กชายอภิสิทธิ์ ศิลารัตน์ อายุ 14 ปี เด็กชายทวิภพ ศิลารัตน์ อายุ 12 ปี และเด็กชายอมรเทพ ศิลารัตน์ อายุ 6 ปี นางสาวชนิตาฯ และนายอนงค์ศักดิ์ฯ ช่วยกันประกอบอาชีพประมงเรือเล็ก ในช่วงก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 15.00 น. นางสาวชนิตาฯ และนายอนงค์ศักดิ์ฯ เตรียมจะไปรับบุตรจากโรงเรียน โดยนั่งเรือประมงเล็ก แต่เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียน นางสาวชนิตาฯ และนายอนงค์ศักดิ์ฯ จึงไปช่วยกันลากอวนในบริเวณทะเลแหลมผี ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลบางชัน อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี แต่ในขณะนั้น เกิดฝนตกหนักและมีคลื่นลมแรงจนทำให้น้ำทะเลพัดเข้าภายในเรือส่งผลให้เรือล่ม นางสาวชนิตาฯ และนายอนงค์ศักดิ์ฯ จึงตกลงไปในทะเล นายอนงค์ศักดิ์ฯ ตะโกนขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านและพยายามช่วยเหลือนางสาวชนิตาฯ แต่เนื่องจากคลื่นลมพัดน้ำทะเลกระแทกเข้าระหว่างนางสาวชนิตาฯ และนายอนงค์ศักดิ์ฯ จึงทำให้ทั้งคู่พลัดแยกออกจากกัน นายอนงค์ศักดิ์ฯ สามารถว่ายน้ำเอาชีวิตรอดได้ แต่นางสาวชนิตาฯ จมน้ำสูญหายไป หลังจากนายอนงค์ศักดิ์ฯ ได้รับความช่วยเหลือแล้ว จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยเพื่อช่วยค้นหานางสาวชนิตาฯ จนกระทั่งเวลา 19.40 น. ก็ยังไม่พบเรือและนางสาวชนิตาฯ เจ้าหน้าที่ฯ จึงต้องยุติการค้นหาเนื่องจากเป็นเวลากลางคืนและมีพายุคลื่นลมแรงซึ่งเป็นอุปสรรคในการค้นหา ต่อมาวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 เวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้ทำการค้นหาอีกครั้ง และเมื่อเวลา 13.21 น. ได้พบนางสาวชนิตาฯ เสียชีวิตจากการจมน้ำทะเล
รายที่ 2 เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2567 เกิดเหตุชายสูงอายุถูกช้างป่าทำร้าย ที่บ้านเลขที่ 18/1 หมู่ที่ 2 ตำบลพวา อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ปรากฏว่า มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายบุดดา เกษอุดม อายุ 66 ปีโดยนายบุดดาฯ พักอาศัยอยู่กับภรรยาชื่อนางสาวสันต์ เกษี อายุ 58 ปี นายบุดดาฯ และนางสาวสันต์ฯ ประกอบอาชีพเกษตรกรปลูกกล้วยน้ำว้ารอบบริเวณบ้าน โดยช่วงเวลาประมาณ 02.30 น. มีช้างป่าเข้ามากินกล้วยในสวน นายบุดดาฯ จึงออกจากที่พักเพื่อไปตรวจสอบในสวน ปรากฏว่าเมื่อช้างป่าเห็นนายบุดดาฯจึงวิ่งเข้ามาทำร้าย ในช่วงเวลาดังกล่าวนางสาวสันต์ฯ เห็นเหตุการณ์จึงส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน จนกระทั่งมีเพื่อนบ้านออกมาช่วยเหลือ ทำให้ช้างป่าตกใจและวิ่งหนีกลับไป นางสาวสันต์ฯ จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านเข้าตรวจสอบ พบว่านายบุดดาฯ ถูกช้างป้าทำร้ายได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ จนทำให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุดังกล่าว
การให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์การพิจารณาการจ่ายเงินสำรองจ่าย งานสังคมสงเคราะห์ ในการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติกรณีต่างๆ โดยให้การช่วยเหลือเป็นเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย ๆ ละ 10,000 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 20,000 บาท และในโอกาสเดียวกันนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี ได้ร่วมจัดพิธีมอบสิ่งของพระราชทานแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตตามหลักเกณฑ์ เป็นเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ไม่เกินครอบครัวละ 1,500 บาท
ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา จ.จันทบุรี 089-6767346
พสิษฐ์ เขม้นเขตวิทย์ รายงาน ศูนย์รวมข่าวภาคตะวันออก 062-7584334