พ.ต.อ.ทวี ขึ้นเวที มุสลิมะห์กว่า 1,000 คน ชูสตรีคือพลังสู้ความรุนแรงวันที่ 12 ต.ค. 68 เวลา 11.00 น. ณ สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา

อับดุลหสดี/ยะลา/12 ต.ค.68พ.ต.อ.ทวี ขึ้นเวที มุสลิมะห์กว่า 1,000 คน ชูสตรีคือพลังสู้ความรุนแรงวันที่ 12 ต.ค. 68 เวลา 11.00 น. ณ สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา

โดยมี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เปิดกิจกรรม บทบาทสตรีมุสลิมะห์กับการก้าวสู่ยุคโลกาพิวัฒน์ ท่ามกลางมุสลิมะห์ยะลาและเจ้าหน้าที่รัฐกว่า 1,000 คน ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ ใช้เวทีวิเคราะห์ผลกระทบความไม่สงบต่อสตรี เผยข้อมูลสำคัญ ชี้ 3 จังหวัดชายแดนใต้โหวต ไม่รับ’ รัฐธรรมนูญปี 2560 ในการทำประชามติปี 59 มากที่สุดในประเทศ เนื่องจากมองว่ารัฐธรรมนูญด้อยค่าศาสนา พร้อมประกาศมาตรการเด็ดขาดควบคุม ‘กระท่อม’ ห้ามวางขายแผงลอย มีผลปรับ 50,000 บาท ทันที และแสดงความภูมิใจที่ประธานสภาฯ ได้รับการยอมรับจาก ส.ส.ทั้งประเทศ

สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ได้มีการจัดกิจกรรม “บทบาทสตรีมุสลิมะห์กับการก้าวสู่ยุคโลกาพิวัฒน์” โดยมี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานเปิดงาน ท่ามกลางการเข้าร่วมของ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ ส.ส.พรรคประชาชาติ เจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการ และมี สตรีมุสลิมะห์จังหวัดยะลาเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 1,000 คน

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ได้กล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งทำให้ครอบครัวต้องเปราะบางลง และเกิดความสูญเสียใหญ่หลวง โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำและดูแลครอบครัว เนื่องจากผู้สูญเสียส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย ผมชื่นชมในความเข้มแข็งของผู้หญิงที่ทำให้พื้นที่ยังคงสามารถดำรงอยู่ได้ท่ามกลางความรุนแรง” พ.ต.อ.ทวี กล่าว พร้อมระบุว่าจุดแข็งของสตรีในพื้นที่คือ ทุกคนยึดมั่นในศาสนา เลี้ยงดูลูกให้มีศาสนา รักสันติภาพ และมีความกล้าหาญ

พ.ต.อ.ทวี ยังยกตัวอย่าง น.ส.มาเรีย คอริน่า มาซาโด ผู้นำฝ่ายค้านหญิงของเวเนซุเอลา ที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพเมื่อวันที่ 10 ต.ค. (ก่อนวันกล่าว 2 วัน) ในฐานะ “ผู้สร้างแสงสว่างแห่งประชาธิปไตย” โดยชี้ว่าคนในพื้นที่ชายแดนใต้ก็ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ยากลำบากไม่ต่างกัน

พ.ต.อ.ทวี ได้วิเคราะห์พลวัตทางการเมือง โดยเฉพาะประเด็นรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ใช้มา 8 ปี ซึ่งท่านมองว่าจำเป็นต้องมีการสอบถามประชามติเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ พร้อมย้อนรอยถึงการทำประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญปี 2559 ที่เกิดขึ้นในยุคเผด็จการ (คสช.) โดยระบุว่า แม้ภาคใต้จะเป็นภาคที่รับร่างรัฐธรรมนูญสูงที่สุด มี 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่ไม่รับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ โดยจังหวัดปัตตานีไม่รับมากที่สุด (ประมาณ 35%) และจังหวัดยะลาและนราธิวาสก็ไม่รับอยู่ใน 1 ใน 5 ของประเทศ

พ.ต.อ.ทวี ระบุเหตุผลว่า เพราะชาวมุสลิมในพื้นที่ใช้ “อมานัต” (ความรับผิดชอบ) ในการพิจารณา และเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว ด้อยไปหมด ทั้งเรื่องศาสนา การศึกษา และเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นหลักที่ควรจะปกป้องคุ้มครองประชาชน

นอกจากนี้ พ.ต.อ.ทวี ยังได้เน้นย้ำถึงบทบาทของพรรคประชาชาติในการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมในสภาฯ ทั้งการผลักดันการเพิ่ม ค่าอาหารกลางวันครูตาดีกา และการเพิ่มจำนวนครูตาดีกาจาก 4 เป็น 6 คน พร้อมประกาศมาตรการเด็ดขาดเพื่อต่อสู้กับยาเสพติด โดยระบุว่าได้มีการลงนามประกาศมาตรการนี้ในช่วงท้ายของการเป็นรัฐมนตรี และมีผลบังคับใช้แล้ว กระท่อมที่วางขายบนถนน หรือทำเป็นแผงลอย จะต้องถูกปรับ 50,000 บาท ห้ามมาวางขายเป็นแผงลอยและห้ามนำมาผสมขาย

พ.ต.อ.ทวี ย้ำว่ามาตรการนี้มีผลใช้ในวันนี้ และขอฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนร่วมตรวจสอบ เพราะ “ยาเสพติดกับสันติสุข/สันติภาพนั้นอยู่ตรงข้ามกัน” และยาเสพติดจะทำลายสมองและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ในช่วงท้าย พ.ต.อ.ทวี ได้ตอกย้ำถึงความสำคัญของพรรคประชาชาติในฐานะ “สถาบันเดียวของประชาชน” พร้อมแสดงความภูมิใจที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ในขณะนั้น) ได้รับเลือกเป็น ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส.ส. ทั้งหมด 500 คน ได้เลือกอาจารย์วันนอร์เป็นประธานสภาฯ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าสิ่งที่ประชาชนในพื้นที่เลือกไปนั้น เป็นสิ่งที่สังคมไทยและสภาผู้แทนราษฎรยอมรับ” พ.ต.อ.ทวี กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากให้ประชาชนในจังหวัดยะลาภูมิใจในผลงานนี้ และขอให้สันติสุขจงเกิดกับทุกท่าน

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *