ร่วมด้วยช่วยกัน! เปิด ‘ครัวสร้างสุข’ ส่งธารน้ำใจสู่ ปัตตานี-สงขลา

อับดุลหาดี/ยะลา/23 พ.ย. 68ร่วมด้วยช่วยกัน! เปิด ‘ครัวสร้างสุข’ ส่งธารน้ำใจสู่ ปัตตานี-สงขลา

ท่ามกลางมวลน้ำที่ยังคงโหมกระหน่ำในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สายน้ำที่ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือน ไม่เพียงพัดพาความเสียหายมาสู่ทรัพย์สิน แต่ยังเปรียบเสมือนสิ่งที่กำลัง “กัดกร่อน” ขวัญและกำลังใจของผู้ประสบภัยให้ถดถอยลงทุกขณะ ในห้วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ “ความรวดเร็ว” ในการเข้าถึง และ “ความร่วมมือ” ที่ไร้รอยต่อ จึงเป็นกุญแจดอกสำคัญที่สุดในการไขประตูสู่การบรรเทาทุกข์ล่าสุด ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ไม่ได้เดินหน้าภารกิจกู้ขวัญนี้เพียงลำพัง แต่ได้ผนึกกำลังครั้งสำคัญร่วมกับ สมาคมสื่อมวลชนเพื่อพัฒนาชายแดนภาคใต้ (JSD-South) และเครือข่ายภาคประชาสังคมที่เข้มแข็งอย่าง ศูนย์พัฒนาอาชีพ กลุ่มร่วมด้วยช่วยกันชายแดนใต้ รวมถึง กลุ่มการจัดการจุดเสี่ยงเพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางถนน เปิดปฏิบัติการเชิงรุกภายใต้โครงการ “ครัวสร้างสุข เพื่อผู้ประสบภัย”ปฏิบัติการครั้งนี้ได้เนรมิตพื้นที่ของ ศูนย์พัฒนาอาชีพ กลุ่มร่วมด้วยช่วยกันชายแดนใต้ ให้กลายเป็น “ฐานบัญชาการครัวสนาม” บรรยากาศภายในเต็มไปด้วยความขะมักเขม้นและไออุ่นจากเตาไฟ ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครต่างระดมกำลังช่วยกันปรุงอาหารสดใหม่ เพื่อให้มั่นใจว่าพี่น้องผู้ประสบภัยจะได้รับประทานอาหารที่ร้อน ปรุงสุก และถูกสุขลักษณะเมนูหลักที่ถูกคัดสรรในวันนี้คือ “ข้าวกะเพราไก่ ไข่ดาว” แม้จะเป็นอาหารจานเดียวที่ดูเรียบง่าย แต่กลับเปี่ยมไปด้วยพลังงาน กลิ่นหอมของใบกะเพราและไข่ดาวทอดใหม่ๆ ที่บรรจุลงกล่องพร้อมทาน คือสัญลักษณ์รูปธรรมของ “ความห่วงใย” ที่ส่งตรงจากผู้ให้ถึงมือผู้รับ โดยมีเป้าหมายสำคัญไม่ใช่เพียงแค่ให้ “อิ่มท้อง” แต่ต้องเยียวยาความรู้สึกให้ “อิ่มใจ” เพื่อให้พวกเขารับรู้ว่าในยามยากลำบากที่สุด พวกเขาไม่เคยถูกทอดทิ้งภารกิจลำเลียงเสบียงรักครั้งนี้ มุ่งเน้นเจาะจงไปยังจุดวิกฤตและพื้นที่ที่เข้าถึงยาก โดยมีการกระจายกำลังลงพื้นที่อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะ พื้นที่ บ้านตะบิงตีงี ต.ลูโบะยิไร, บ้านราเกาะ ต.เกาะจัน อ.มายอ และ ต.เตราะบอน อ.สายบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านกำลังเผชิญความยากลำบากในการดำรงชีพ และ เปิดครัวเคลื่อนที่รุกเข้าถึงพื้นที่เป้าหมายสำคัญ ได้แก่ “บ้านลำไพลตก” หมู่ที่ 2 ซึ่งมีผู้ได้รับผลกระทบกว่า 600 คน และพื้นที่วิกฤตอย่าง “บ้านลำเปา” หมู่ที่ 13 ต.ลำไพล อ.เทพา ที่ทีมงานต้องนำส่งอาหารให้ถึงมือชาวบ้านกว่า 215 ครอบครัว (รวมประชากรกว่า 1,000 คน)นอกเหนือจากการส่งมอบอาหาร ทีมงานภาคีเครือข่ายยังได้ระดมแรงกายเข้าช่วยเหลือในภารกิจเร่งด่วน ทั้งการ ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และการอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่เสี่ยงมาอาศัยอยู่ในเต็นท์พักพิงชั่วคราว”ในจุดนี้ โดยปกติของทุกปี ชาวบ้านจำต้องอาศัยกินนอนอยู่ในเต็นท์เป็นเวลานานกว่า 1 เดือน ซึ่งในปีนี้สถานการณ์ยิ่งน่าเป็นห่วง เนื่องจากระดับน้ำกำลังเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับฝนที่ยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การใช้ชีวิตในเต็นท์เต็มไปด้วยความยากลำบาก”“ครัวสร้างสุข” สะท้อนให้เห็นมิติใหม่ของการทำงานในชายแดนใต้ ที่หน่วยงานรัฐอย่าง ศอ.บต. ทำหน้าที่ “หนุนเสริม” ทรัพยากร และปล่อยให้กลไกภาคประชาสังคมและสื่อมวลชนในพื้นที่ ซึ่งมีความรู้ลึกรู้จริงในภูมิประเทศ เป็นทัพหน้าในการเข้าถึงชาวบ้าน ผนวกกับความเชี่ยวชาญของ กลุ่มการจัดการจุดเสี่ยงฯ ที่เข้ามาช่วยวางแผนเส้นทางลำเลียงความช่วยเหลือฝ่ากระแสน้ำ ทำให้ภารกิจเป็นไปอย่างปลอดภัย ในยามที่ฝนยังไม่หยุดตก และระดับน้ำยังทรงตัว “น้ำใจ” จากคนไทยด้วยกัน คือ “เขื่อน” กั้นความทุกข์ที่แข็งแกร่งที่สุด

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *